วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

วัฒนธรรมที่ผ่านมา

มีความคิดที่จะถ่ายทอดสิ่งที่ผ่านมาในการทำงาน เป็นเรื่องของการกระทำที่ชนรุ่นหนึ่งได้ประสบ และคิดว่าควรจะสืบต่อไปอย่างน้อยก็ให้เห็นในความเป็นมา เพื่อความยั่งยึนขององค์กร
จั่วหัวว่าวัฒนธรรมที่ผ่านมา เพื่อจะตั้งกรอบการนำเสนอว่า อันนี้เป็นเพียงสิ่งผ่านมาเท่านนั้นนะ ส่วนการสืบต่อเป็นอย่างไรอยู่ที่ผู้ที่จะอยู่ในองค์กรต่อไปเท่านั้นเอง ไม่มีใครรู้อนาคตได้ แต่อดีตแบ่งปันกันได้
ตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องนี้ในมิติของ คนทำงานที่ได้สัมผัสกับคน คนที่เป็นนาย คนที่เป็นเพื่อน คนที่เป็นน้อง เล่าว่าผมผ่านมาอย่างไรจากวันเข้าทำงานจนถึงวันออกจากงาน (ตามความตั้งใจจะอยู่จนกว่าจะเกษียณ)
คงจะเป็นเรื่องที่ยาว และเป็นมุมมองของคนเพียงคนเดียว มุมมองของผม
มุมมองที่ผ่านอารมณ์ ความคิด จนถึงไร้คิดและไร้ความรู้สึกแต่รับรู้ได้ เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้ผ่านมา บางเหตุการณ์นาน บางเหตุการณ์พึ่งผ่าน การนำเสนอในวันและเวลานี้จึงอาจไม่ได้อารมณ์ความรู้สึกเวลานั้น เพราะวัยของคน การมองเห็นย่อมเป็นไปตามกาลเวลา แต่สิ่งที่ต้องการนำเสนอนั้นจะพยายามไม่ตีความ นำเสนอเหตุการณ์ให้ได้รับรู้ก่อน ส่วนการตีความนั้นจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือความคิด ความรู้สึกในขณะนั้น และอีกส่วนหนึ่งคือความเห็นในขณะนี้ อาจไม่เหมือนกันเป็นเพราะเวลาเป็นเงื่อนไข
ที่ต้องการเริ่มจาก นาย มาถึงเพื่อน และตามด้วยน้องนั้น มีเรื่องราวเป็นไปตามจังหวะของชีวิตการทำงาน
เมื่อเราเข้างานมาแรกเริ่มคงต้องมีนายก่อน นายให้งาน ให้ความรู้ ให้โอกาส และให้อภัยเมื่อเราพลาดแล้วให้ความรู้เพิ่ม ให้โอกาสทำอีก ถ้าเราพลาดอีก นายยังให้อภัยและให้ความรู้ ให้โอกาส เป็นวัฏฏจักรที่หมุนเวียนไปเสมอมาด้วยความเมตตาของนาย
เมื่อมีงาน เราก็มีเพื่อน เพื่อนที่แลกเปลี่ยนกันในการทำงาน สร้างความสำเร็จร่วมกัน เป็นมาและเป็นไป แม้ในความเป็นจริงของงานมีการแข่งขัน ต่อสู้ ดิ้นรน และแย่งชิง แต่เพื่อนก็คือเพื่อน
ผ่านเวลาไปเราก็มีน้องที่ทำงานร่วมก้น ไม่มีน้องก็ไม่มีความสำเร็จ น้องทำงาน ทำเรื่อง ทำสารพัด แล้วเราก็มองเห็นตัวเรา ว่าเราก็ทำอย่างนี้กับนายมาก่อน วงเวียน วัฏฏจักร การทำงาน จึงก่อเกิดวัฒนธรรม วัฒนธรรมที่ผ่านมา ถ้าสอดคล้องเป็นไปตามที่ควร รับใช้เราและผองเพื่อน ทั้งนาย เพื่อน และน้อง ควรได้รับการบันทึกและศึกษา
ไม่ได้หวังอะไรแต่คิดไว้ว่านี่คือสิ่งที่ทำได้เพื่อองค์กร ให้องค์กรได้ ยั่งยืน สืบต่อ จากรุ่นสู่รุน เป็นสันคติที่ไม่ดับสูญ
ด้วยจิตนอบน้อม
ตุ๊ดตู่ ร่าเริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น