วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

บนเส้นทางไปเขื่อนสิริกิติ์

เราเดินทางโดยรถไฟ รถเร็วกรุงเทพ-เด่นชัย ออกจากบางซื่อ 20:34 น. ขบวนนี้ไม่มี่รถเสบียง หาน้ำทานยังไม่ได้ เรากระโดดลงไปซื้อน้ำที่สถานีดอนเมือง สองนาทีกับการวิ่ง ยังขึ้นรถทัน
มาเขื่อนสิริกิติ์พร้อมกับโจทย์เรื่อง Dialogue ที่ อขส. ต้องการให้จัด โจทย์ไม่ยากยากที่ไม่รู้ว่าจะทำกับใครบ้าง ตั้งใจว่าจะไปหาโจทย์ให้ชัดเจน ทำกับใคร
วางแผนไว้ว่า เริ่มด้วยการ Check In โดยการนั่งนิ่งประมาณ 1 นาที เพื่อถามตนเองว่ามีจุดประสงค์อะไรในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ แจกกระดาษเปล่าให้สีและปากกา ตอบคำถามด้วยการวาดภาพ ใช้เวลาตรงนี้ประมาณ 30 นาที ถึง 45 นาที เสร็จแล้วเชิญชวนให้ถือกระดาษที่วาดแล้วเดินไปรอบๆ ตามเสียงเพลงเบาประมาณ 3 นาที เพลงจบหยุดยืนนิ่ง อยู่ใกล้ใครชวนกันจับคู่กับคนที่อยู่ใกล้กัน เชื้อเชิญให้คู่ได้ดูรูปภาพ ใช้เวลาพิจารณาภาพประมาณ 3 นาที ให้เพื่อนได้เล่าให้พังถึงภาพที่เราเขียน ฟังที่เพื่อนเล่าแล้วสลับกัน(ตรงนี้ต้องให้เครื่องหมายว่าใครจะเป็นคนเล่าก่อน เป็น A และ B ) ใช้เวลาตรงนี้ประมาณ 60 นาที พักเครื่องดื่ม กลับเข้ามานั่งนิ่ง(ตรงนี้ต้องสร้างบรรยากาศ เกี่ยวกับกถาธรรม การพูดที่ไม่ทำให้จิตเร่าร้อน ไม่กระตุ้นจิต) ให้พิจารณาเรื่องสัตว์สี่ประเภท ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สรุปช่วงเช้า เรื่องการสนทนาที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ การตีความ จุดประสงค์นำพาเราไป ความแตกต่างของคน ในหลายๆ แบบ การสนทนาที่กระตุ้นให้เร่าร้อน ตอบข้อซักถาม จบครึ่งวันแรกไปรับประทานอาหาร
เริ่มตอนบ่ายด้วย Body Scan ของแม่ชีวัดพลัม ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สรุปด้วยการตระหนักรู้ในตน การกลับมาอยู่ที่ฐานกาย ต่อด้วยชักชวนให้รู้จักฐานใจ และฐานคิด ฐานแต่ละฐานหมายถึงอะไร ความหวั่นไหวเมื่อถูกกระทบ หนักแน่นได้ด้วยรากฐานที่แน่น และหนักแน่นที่สุดคือกาย (เมื่อคิดไม่ออกให้ใช้ความรู้สึก เมื่อใช้ความรู้สึกแล้วไม่สำเร็จให้กลับมาอยู่กับกาย อยู่กับลมหายใจของเรา กายของเรา)ใช้เวลาประมาณ 45 นาที พักรับประทานเครื่องดื่ม สามช่วงที่ผ่านมาเป็นการเตรียมกาย ใจ และความคิด เพื่อการสนทนาที่ก่อให้เกิดปัญญาร่วม กลับเข้ามาชวนเชิญทุกคนนั่งนิ่ง 1 น่าที พูดชักจูงกลับไป หาจุดที่เริ่มต้นของชีวิต หาความประทับใจเมื่อวัยเยาว์ ก่อนจะได้เรียนจากระบบโรงเรียน ให้จับกลุ่มสามคนใช้เกมจับกลุ่ม) ให้สนทนาแลกเปลี่ยนกัน โดยแบ่ง เป็น A B และ C เริ่มจาก A เล่า B ฟัง C สังเกต โดยมีแบบบันทึก(เป็นแบบประเมินตนเองในวันถัดไป)ให้ C แล้ววนกลับมา จนครบสามคน จากนั้น ให้ ทั้งสามคนได้แลกเปลี่ยนการสังเกตกัน สรุปเป็นการสังเกตุ แลกเปลี่ยนกันเป็นการ Check Out จบวันแรก
วันที่สอง Check In ด้วยหัวใจดวงเล็ก ให้เขียนความรู้สึกด้วยถ้อยคำ ไม่เกิน สิบห้าคำ ทุกคนอ่านเฉพาะที่เขียนสิบห้าคำเท่านั้น วิทยากรเชิญชวนให้ประเมินตนเอง วิทยากรสรุปสิ่งที่ฟังและชวนให้เห็นการฟังในกลุ่มใหญ่ สอบถามความรู้สึกเมื่อได้ฟัง นำสู่การตระหนักในชุดความคิด(Mental Model) การตัดสิน การจัดกลุ่ม กลไกอัตโนมัติของจิต (ปกป้อง และปกติ) คุณภาพการฟัง จากแบบเมื่อวานตอนเย็น และบรรยากาศที่เป็นความสงบเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเสร็จสรุปแล้ว พักเครื่องดื่ม กลับเข้ามาชวน Body Exerciese และ Brain Exercise (คิดกิจกรรมทีหลัง) ด่อด้วยการให้โจทย์ที่จะสนทนากันด้วยหัวข้อ "......" จบครึ่งเช้าวันที่สองด้วยการประเมินตนเองพักรับประทานอาหารกลางวัน บ่ายเริ่มด้วย Body Scan วิทยากรสรุด้วยการตระหนักรู้ในตนเกี่ยวกับการฟัง การตาม ไม่ได้เป็นการควบคุมแต่เป็นการตามดูให้รู้ในสิ่งที่ตนทำ นำสู่การสนทนาที่ไม่มีหัวข้อ สรุปประเมินตนเอง พักรับประทานเครื่องดื่ม วิทยากรสรุปและนำสรุป และนำสู่การ Check Out ทิ้งข้อคิดเรื่องการฟังที่ก่อให้เกิดปัญญาร่วม ให้แนวทางที่จะสานต่อให้เกิดศักยภาพจากเมล็ดที่บ่มเพาะไว้ต้องบำรุงรักษา การเรียนที่ไม่มีการรู้
จากกันด้วยดี
จบความคิดที่ต้องการแต่ยังมีความรู้สึกว่าสองวันน้อยไป

ด้วยจิตนอบน้อม
ศิริวัฒน์